ดูหนังโฆษณาก่อนจะได้ดูหนังจริง

วันศุกร์ ที่ 28 พฤษภาคม 2553 เวลา 0:00 น

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 วงเงิน 2.07 ล้านล้านบาท เป็นไปตามที่ “คอการเมือง” คาดไว้ กล่าวคือ

มี “เนื้อหา” เกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ “น้อยมาก” ขณะที่เวลาของสภาผู้แทนราษฎรส่วนใหญ่ “วนเวียน” อยู่กับเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยุติลง “ชั่วคราว” เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา

ไม่ว่าจะเป็น ข้อกล่าวหาที่ว่า ผู้ มาชุมนุมเป็นผู้ก่อการร้าย ขณะที่รัฐบาล ตอบโต้ว่า รัฐบาลไม่เคยกล่าวหาผู้ชุมนุม ที่ปราศจากอาวุธว่าเป็นผู้ก่อการร้าย แต่บอกว่ามีคนใช้อาวุธเพื่อสร้างสถานการณ์และก่อการร้าย

หรือข้อกล่าวหา รักทหารมากกว่ารักเกษตรกร โดยอ้างงบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลตอบโต้ว่า เป็นการจัดสรรงบประมาณที่ไม่แตกต่างจากสมัยรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช

แม้แต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ไม่เน้นเรื่อง ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ แต่ไปเน้นเรื่อง “ข้อหา” ก่อการร้ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกออกหมายจับข้อหา “ก่อการร้าย”

“ในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะชู พ.ต.ท.ทักษิณ แน่นอน วันนี้อย่าสงสัยเพราะผมเป็นสาวกของ พ.ต.ท.ทักษิณ”

น้ำหนักของการอภิปรายวันแรก จึงเน้นเนื้อหาของการชุมนุมโดยมีเรื่องงบประมาณเป็น “เครื่องเคียง”

ในทางการเมืองรู้กันว่า อย่างไรเสียร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ก็ต้องผ่านวาระ 1 คือวาระรับหลักการจนได้ เพราะรัฐบาลนั้นมีเสียงข้างมาก

แต่เรื่องที่ต้องพูดคือ สถานการณ์การชุมนุมที่เพิ่งผ่านมา

หวังจะเพิ่มหรือหวังจะลดอุณหภูมิทางการเมืองดูกันได้ไม่ยาก

ยิ่งมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์และวิทยุบางช่วงก็ยิ่งทำให้การแสดงมีมากกว่าการประชุมตามกระบวน การปกติ

เวทีนอกสภาถูกรื้อไปหมาด ๆ ทางเลือกจึงมีแค่เวทีในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้นที่จะได้แสดงบทบาท

มีข่าวว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจจบลง ผลจะเป็นอย่างไรก็ช่าง พรรคเพื่อไทยมีแผนจะเดินหน้าลงพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน หาเสียงทางการเมืองทันที

“ปิดประตู” รัฐบาลไม่ให้เข้าพื้นที่ทันที

การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณจึงเป็น “หนังตัวอย่าง” ที่ออกมาดึงอารมณ์ก่อนดู “หนังจริง” อย่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจซึ่งจะมีขึ้นในช่วงวันที่ 31 พ.ค.-1 มิ.ย. ที่จะถึงนี้.